ข้อเท้า

Hallux valgus คือ ภาวะที่นิ้วหัวแม่เท้ามีการเอียงออกไปทางด้านนอกมากเกินไป จนทำให้ข้อต่อของนิ้วหัวแม่เท้าโป่งออกและมีความผิดรูป อาจทำให้เกิดอาการปวด บวม และอักเสบบริเวณนิ้วหัวแม่เท้า ซึ่งมักเกิดจากการสวมรองเท้าที่คับแน่นหรือเป็นผลจากกรรมพันธุ์

Plantar Fasciitis (พังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ)

Plantar fasciitis คือ การอักเสบของพังผืดที่ยึดอยู่ใต้ฝ่าเท้า โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้า ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณส้นเท้า มักพบในผู้ที่ยืน เดิน หรือวิ่งเป็นเวลานาน การรักษามักเน้นการพัก การยืดกล้ามเนื้อ หรือการทำกายภาพบำบัด

Achilles Tendinitis (เอ็นร้อยหวายอักเสบ)

Achilles tendinitis คือ การอักเสบของเอ็นร้อยหวาย ซึ่งเป็นเอ็นที่เชื่อมต่อระหว่างกล้ามเนื้อน่องกับส้นเท้า อาการหลักคือ ปวด บวม และการเคลื่อนไหวที่ลดลง มักเกิดจากการใช้งานมากเกินไปหรือการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย การรักษาคือการพัก การใช้ยาต้านการอักเสบ หรือกายภาพบำบัด

Gout (โรคเกาต์)

โรคเกาต์ คือ การสะสมของกรดยูริกในเลือดที่ทำให้เกิดการสะสมในรูปของผลึกเกลือยูเรตที่ข้อต่าง ๆ โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่เท้า ทำให้เกิดอาการปวดบวมรุนแรงและอักเสบแบบเฉียบพลัน การรักษาเน้นการใช้ยาลดกรดยูริกและการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร

ขั้นตอนการรักษา (Procedure)

การรักษานี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยจะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณข้อมือ ข้อเท้า หรือด้านบนของเท้า ขึ้นอยู่กับบริเวณเป้าหมาย หลังจากนั้นจะใส่ท่อขนาดเล็ก คล้ายกับท่อที่ใช้ในการให้น้ำเกลือ เข้าไปในหลอดเลือดแดง เพื่อส่งผ่านอนุภาคเล็กๆ ที่ทำจากยาปฏิชีวนะ การใส่ท่อนี้มีขนาดเล็กมากและขั้นตอนการรักษาจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที หลังการรักษาจะทำการกดเบา ๆ บริเวณที่สอดท่อเล็กน้อยเพื่อหยุดเลือดไหล จากนั้นผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ทันที และสามารถอาบน้ำหรือทำกิจกรรมได้ตามปกติในวันเดียวกัน

ผลลัพธ์ 

จากการสำรวจผู้ที่ได้รับการรักษานี้ พบว่าประมาณ 70% รายงานว่าอาการปวดลดลงครึ่งหนึ่งหรือมากกว่าจากระดับก่อนการรักษา อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยเพียงส่วนน้อยที่หายขาดจากอาการปวด การรักษานี้มุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการปวดอย่างรุนแรงมากกว่าการกำจัดอาการปวดทั้งหมด ผลลัพธ์ของการรักษาอาจไม่ปรากฏให้เห็นทันที แต่จะเห็นผลชัดเจนในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังการรักษา ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้รับการรักษามากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

แชร์บทความของเราสิ